หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

บทที่ 7 การวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัยและทักษะพิสัย

การวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัยและทักษะพิสัย
พฤติกรรมทางการศึกษาด้านจิตพิสัย
          พฤติกรรมทางการศึกษาด้านจิตพิสัย เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกอารมณ์ค่านิยมคุณธรรมและจริยธรรมของบุคคลพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านจิตพิสัยสามารถจำแนกได้ 5 ระดับ คือ การรับรู้การตอบสนอง การสร้างคุณค่าการจัดระบบคุณค่า และการสร้างลักษณะนิสัยคุณลักษณะด้านจิตพิสัยเป็นสิ่งที่วัดและประเมินได้ค่อนข้างยาก
1 ธรรมชาติของการวัดผลด้านจิตพิสัย
พฤติกรรมด้านจิตพิสัยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกของบุคคลผู้ที่จะทำการวัดผลด้านนี้จึงควรทำความเข้าใจกับ ธรรมชาติของการวัดก่อน
       1 การวัดด้านจิตพิสัยเป็นการวัดทางอ้อม การวัดด้านอารมณ์ และความรู้สึกของบุคคล ไม่สามารถวัดได้โดยตรงจากประสาทสัมผัสทั้ง 5
       2 คุณลักษณะด้านจิตพิสัย มีลักษณะเป็นนามธรรม ไม่สามารถสังเกตได้โดยตรง เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ความสนใจ เจตคติ เป็นต้น
       3 การวัดด้านจิตพิสัยมีความคลาดเคลื่อนได้ง่าย
       4 การวัดด้านจิตพิสัยไม่มีถูกไม่มีผิด
       5 การวัดด้านจิตพิสัยมีวิธีการวัดได้ 2 แบบได้แก่ประเมินตนเองและประเมินโดยผู้อื่น
       6 การวัดด้านจิตพิสัยต้องใช้สถานการณ์จำลองเป็นเงื่อนไขให้พูดถูกวัดตอบ
       7 การวัดด้านจิตพิสัย ผู้ตอบสามารถบิดเบือนหรือหลอกผู้ทำได้
        8 พฤติกรรมการแสดงออกของคุณลักษณะด้านจิตพิสัย มีทิศทางการแสดงออกได้ 2 ทางในทางตรงกันข้าม เช่น รัก- เกลียด
2 ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือวัดด้านจิตพิสัย
การสร้างเครื่องมือวัดด้านจิตพิสัย มีขั้นตอนสำคัญดังนี้
2.1 กำหนดคุณลักษณะที่ต้องการวัด
ได้แก่คุณลักษณะด้านความรู้สึก ค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรมต่างๆ
2.2 กำหนดพฤติกรรมชี้บ่ง
เป็นการนำคุณลักษณะที่ต้องการ วัดมาวิเคราะห์ว่าจะมีพฤติกรรมใดที่จะชี้บ่งคุณลักษณะดังกล่าวให้ชัดเจน
2.2.1 ตัวอย่างการกำหนดพฤติกรรมที่ชี้บ่งคุณลักษณะที่ต้องการวัด
1 นิสัยรักการทำงาน จะมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาให้เห็นได้ เช่น
- เอาใจใส่ กระตือรือร้น พยายามปรับปรุงงานให้ก้าวหน้า
2 ความรับผิดชอบ
-ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จครบถ้วนในเวลาที่กำหนด
3 ความขยันหมั่นเพียร
-ช่วยงานครูและโรงเรียน
-สนใจฟังและตอบ
4 ความซื่อสัตย์
-ไม่พูดปด
-ไม่ลักขโมย
5 การมีวินัยในตนเอง
-ทำงานด้วยความตั้งใจแม้ไม่มีครูอยู่ด้วย
 2.3 กำหนดวิธีการวัดและเครื่องมือวัด
หลังจากที่ได้กำหนดพฤติกรรมที่ชี้บ่งคุณลักษณะที่ต้องการวัดแล้วขั้นต่อไปจะต้องพิจารณาว่าพฤติกรรมชี้บ่งดังกล่าวเหมาะที่จะใช้เครื่องมือหรือวิธีการวัดผลแบบใดโดยการเลือกใช้เครื่องมือวัดต้องคำนึงถึงคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องมือแต่ละประเภทว่าเหมาะที่จะวัดคุณลักษณะใดเหมาะสมกับบุคคลที่ต้องการวัดและเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน ได้แก่ ใช้สะดวก รวดเร็วง่ายต่อการใช้



2.4 สร้างเครื่องมือวัด
เมื่อเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสมได้แล้วก็เป็นขั้นการลงมือสร้างเครื่องมือ โดยการเขียนข้อความในการวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัยจะมี 2 ลักษณะคือ ข้อความเป็นบวกและข้อความเป็นลบ
2.5 ตรวจสอบคุณภาพ
หลังจากสร้างเครื่องมือเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะนำไปวัดจริงให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณา โดยนำข้อความที่เก็บรวบรวมไว้แล้ว ไปให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
2.6 ปรับปรุงเครื่องมือ
เมื่อทราบผลการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือผู้สร้างความปรับปรุงเครื่องมือเพื่อให้ได้ข้อคำถามที่มีคุณภาพมากที่สุด
2.7 สร้างเกณฑ์การแปลความหมายและ จัดทำคู่มือการใช้
ในการสร้างเกณฑ์ในการแปลความหมายจะต้องชัดเจนเข้าใจตรงกัน
3 เครื่องมือที่ใช้ในการวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย อาจเป็นเครื่องมือที่ผู้ตอบประเมินตนเอง หรือให้ผู้อื่นเป็นผู้ประเมิน มีเครื่องมือและวิธีการหลายประเภท อาจใช้ การสังเกต สัมภาษณ์ แบบสอบถาม
พฤติกรรมการศึกษาด้านทักษะพิสัย
พฤติกรรมทางการศึกษาด้านทักษะพิสัยเป็นการวัดความสามารถในการปฏิบัติหรือทักษะของผู้เรียนโดยเน้นให้ผู้เรียนได้แสดงความสามารถในรูปการกระทำจริง
1 ธรรมชาติของการวัดผลด้านทักษะพิสัย
ทักษะพิสัยเป็นการวัดด้านการปฏิบัติของบุคคลผู้ที่จะทำการวัดด้านนี้ควรทำความเข้าใจกับธรรมชาติของการวัดดังนี้(ภัทรา นิคมานนท์.2541:175-177)
1 พฤติกรรมด้านทักษะพิสัยสามารถประเมินได้ทั้งเป็นกลุ่มและรายบุคคล
2 งานที่ปฏิบัติแตกต่างกันย่อมมีวิธีการวัดที่แตกต่างกัน
3 การวัดภาคปฏิบัติสามารถวัดได้ 3 แบบ คือ วัดกระบวนการ วัดผลงาน หรือวัดทั้งกระบวนการและผลงานร่วมกัน
4 การวัดผลการปฏิบัติอาจแยกออกได้ 3 ระดับ คือ ระดับพฤติกรรม ระดับผลลัพธ์ และระดับประสิทธิผล
2 ลักษณะการวัดภาคปฏิบัติ
การวัดภาคปฏิบัติสามารถวัด ได้ใน 4 ลักษณะดังนี้(สมศักดิ์ สินธุระเวชญ์.2529)
2.1 การทดสอบการปฏิบัติด้วยการเขียนตอบ
จะแตกต่างไปจากการสอบโดยทั่วทั่วไปเพราะการทดสอบนี้มุ่งวัดการใช้ความรู้และทักษะ คำถามส่วนใหญ่เป็นการใช้ความรู้ที่มาจากการเรียนรู้ที่ผ่านมา เช่น ในรายวิชาการประเมินผลการเรียนอาจจะกำหนดให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมดังนี้
- สร้างตารางวิเคราะห์หลักสูตรในหน่วยที่
- สร้างข้อสอบตามตารางวิเคราะห์หลักสูตร
2.2 การทดสอบเชิงจำแนก
เป็นแบบทดสอบที่ผู้เรียนจำแนกเครื่องมือหรือวิธีการที่ใช้ในการปฏิบัติ
2.3 การปฏิบัติเชิงสร้างสถานการณ์
โดยเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติงานในสถานการณ์ที่เหมือนจริง เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผู้เรียนได้รับอันตราย หรือทำเครื่องมือราคาแพงเสียหายระหว่างการพัฒนาทักษะ
2.4 การปฏิบัติงานจริง
การปฏิบัติงานจริงถือว่าเป็นการวัดภาคปฏิบัติที่มีระดับความเป็นจริงสูงสุด นักเรียนจะต้องแสดงตัวอย่างของงานภายใต้สถานการณ์จริง








3 ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือการวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
3.1 การกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้
ซึ่งก่อนที่ผู้สร้างเครื่องมือ จะกำหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ได้ต้องศึกษาหลักสูตรโดยละเอียด แล้วพยายามแปลงเป้าหมายในหลักสูตรให้เป็นวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่สามารถวัดได้ สังเกตได้
3.2 การกำหนดคุณลักษณะของพฤติกรรมที่ต้องการวัด
เป็นการกำหนดว่าจะให้ผู้เรียนปฏิบัติอะไร โดยลักษณะงานที่จะให้ปฏิบัติต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนที่กำหนดไว้ มีความยากง่ายพอเหมาะกับผู้เรียน ใช้เวลาในการปฏิบัติอย่างเหมาะสม โดยควรมีการวิเคราะห์งานที่ต้องปฏิบัติ
3.3 กำหนดวิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการวัด
เป็นการเลือกประเภทของเครื่องมือวัดซึ่งการวัดภาคปฏิบัติการทำได้หลายวิธีดังนี้
3.1.1 ใช้แบบทดสอบข้อเขียนหรือการสอบปากเปล่าการวัดวิธีนี้เหมาะกับงานที่ต้องการวัดความรู้ความสามารถทางทฤษฎีเกี่ยวกับการปฏิบัติงานเพื่อตรวจสอบทักษะความสามารถในงานที่จะทำ
3.3.2 การสร้างสถานการณ์จำลองโดยผู้วัดต้องจัดเตรียมสหการให้คล้ายคลึงกับสถานการณ์ที่เป็นจริง
3.3.3 การวัดผลจากการปฏิบัติจริงโดยอาจจะวัดที่กระบวนการวัดผลงานหรือวัดทั้งสองอย่างร่วมกันการกำหนดเครื่องมือที่ใช้ ในการวัดภาคปฏิบัตินั้นจะต้องสอดคล้องกับวิธีการวัด
3.3.4 สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวัดผล โดยจะต้องคำนึงถึงการเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับคุณลักษณะที่ต้องการวัดและหลักในการสร้างเครื่องมือประเภทนั้น
3.3.5 ตรวจสอบคุณภาพ หลังจากสร้างเครื่องมือเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะนำไปใช้วัดจริง ควรตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวัดก่อนจนแน่ใจว่าเครื่องมือนั้นมีคุณลักษณะที่สำคัญของเครื่องมือที่ดี
3.3.6 ปรับปรุงเครื่องมือเมื่อทราบผลการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือแล้วผู้สร้างควรปรับปรุงเครื่องมือให้พร้อมนำไปใช้ในสถานการณ์จริง
3.3.7 กำหนดวิธีการประเมินผลเพื่อให้สามารถแปลความหมายของคะแนนให้เข้าใจตรงกันเกณฑ์การให้คะแนนควรกำหนดวิธีการตรวจให้คะแนนอย่างละเอียดให้สามารถเข้าใจได้ตรงกัน
4 เครื่องมือที่ใช้ในการวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัยจะมีทั้งการทดสอบแบบเขียนตอบหรือการทดสอบเชิงจำแนกและไม่ใช่การทดสอบเป็นการให้ปฏิบัติจริงหรือปฏิบัติเชิงสถานการณ์ในที่นี้จะยกตัวอย่างให้ดูทั้งสองแบบเพื่อเป็นแนวทางนำไปประยุกต์ใช้
4.1 เครื่องมือที่เป็นการสอนภาคปฏิบัติ
ตัวอย่าง การสอบภาคปฏิบัติในวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องการทดลองหาปริมาตรของวัตถุ
อุปกรณ์ ได้แก่ 1.น็อตเหล็ก
                      2.บีเกอร์บรรจุน้ำ 10
                  3.ด้าย
                      4.กระบอกตวงน้ำ 200
คำสั่ง             จงหาปริมาณของน็อตเหล็ก
จุดประสงค์    ของการปฏิบัติการนี้ ก็คือ ต้องการให้นักเรียนออกแบบเพื่อทำการทดลองหาปริมาตรเมื่อมีอุปกรณ์เตรียมไว้ และเป็นการสอบวัดพฤติกรรมการเลือกใช้เครื่องมือให้ถูกต้องการให้คะแนนครูควรทำการทดลองเพื่อคำนวณหาค่าปริมาตรก่อน  เพราะนักเรียนแต่ละคนอาจทดลองได้ค่าปริมาตร คาดเคลื่อนแตกต่างกัน ครูจึงควรกำหนดค่าใกล้ที่สุดได้คะแนนสูงสุดค่า ที่ไกลจากเกณฑ์ก็ให้  คะแนนลดน้อยลงไปตามลำดับ



4.2 เครื่องมือที่ไม่ใช้ในการทดสอบ
เครื่องมือที่ใช้ในการวัดและประเมินผลด้านทักษะพิสัยนอกจากเครื่องมือที่ใช้การทดสอบยังมีเครื่องมืออื่นๆอีกหลายประเภทซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและโอกาสการใช้ที่แตกต่างกันเครื่องมือที่นิยมใช้มีดังนี้
4.2.1 แบบสำรวจรายการ  เป็นเครื่องมือที่ใช้ประกอบการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนสามารถตรวจให้คะแนนได้ทั้งส่วนที่เป็นกระบวนการและส่วนที่เป็นผลงาน
4.2.2 มาตราส่วนประมาณค่า ลักษณะจะคล้ายกับแบบตรวจสอบรายการ กล่าวคือในมาตราส่วนประมาณค่า มีรายการที่แสดงถึงรายละเอียดของกระบวนการหรือผลงานเช่นเดียวกันแต่ในการประเมินผู้ประเมินจะพิจารณาจาก การปฏิบัติงานของผู้เรียนว่าได้มีการปฏิบัติงานตามกระบวนการหรือมีผลงานตามรายการที่ระบุไว้แต่ละรายการอยู่ในระดับใด
4.2.3ระเบียนพฤติการณ์เป็นแบบบันทึกพฤติกรรมที่ได้จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนตามที่เกิดขึ้นจริงในระหว่างเรียนหรือนอกห้องเรียน โดยสังเกตจะบันทึกรายละเอียดพฤติกรรมตามที่สังเกตได้เท่านั้นจะไม่บันทึกส่วนที่เป็นความรู้สึกนึกคิดหรือความคิดเห็นของตนลงไปด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น